สรุปงานเปิดตัว Apple 2021 : California Streaming

สรุปงานเปิดตัว Apple 2021 : California Streaming

จบกันไปแล้วกับงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของ Apple ในช่วงต้นครึ่งปีหลัง 2021 อย่าง California Streaming โดยจะมาสรุปกันว่าในงานนี้มีอะไรบ้าง เมื่อวานนี้ (14 ก.ย. 2564) – Apple ได้ทำการจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัท ภายใต้ชื่อ California Streaming โดยภายในงานนั้นก็ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และระบบซอฟต์แวร์อื่น ๆ ที่จะทำการปล่อยภายในช่วงปลายปีนี้ถึงปีหน้าอีกด้วย

ทำให้ในวันนี้ (15 ก.ย.) ทาง The Thaiger จะมาทำการสรุปเก็บตกว่าในงานนี้นั้น ได้มีการเปิดตัวอะไรกันไปบ้าง ซึ่งก็พอจะแยกไปได้ดังนี้

อย่างที่ได้กล่าวไปว่าในงานนี้มีจุดประสงค์ก็เพื่อเปิดตัวสิ่งต่าง ๆ ที่ Apple มีแผนจะปล่อยในช่วงปลายปีนี้ และปีต่อไป โดยภายในงานนั้นก็มีเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ที่เด่นที่สุดก็คือ iPhone 13 ซึ่งข้อมูลของมันนั้นก็ถือว่าตรงกับที่หลุดออกมาประมาณ 80+% ก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอ 120Hz, ความจุเครื่องสูงสุด 1TB, การอัปเกรดในส่วนของกล้อง เป็นต้น โดยหลายคนได้มองว่าตัวรุ่น 13 นี้ อาจจะเรียกว่าเป็น 12+ เสียมากกว่า ที่ซึ่งก็พอจะดูเป็นในแนวทางนั้น เพราะ Apple เองได้ประกาศถึงการยุติการผลิตในตัวรุ่น 12 Pro และ 12 Pro Max เพื่อเปิดทางสายการผลิตให้รุ่น 13 นั้นเอง

นอกจากตัวเอกของงานแล้วนั้น ในงานนี้ยังได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เป็นรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Apple Watch Series 7 ที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้น และทนทานกว่าเดิม, iPad 9 (iPad 10.2 (2021)) ที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงภายนอก แต่มีการพัฒนาเครื่องในเป็นหลัก ที่ทำให้ตัวเครื่องนั้นมีความแรงกว่ารุ่นเดิม 20%

และ iPad Mini 6 (2021) ที่ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจรองมาจากตัวเอกประจำงานก็ว่าได้ โดยมันนั้นได้รับการออกแบบตัวเครื่องขึ้นมาใหม่ ให้มีความเบาบาง และมีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเป็น 8.3 นิ้ว อีกทั้งยังได้รับการเสริมประสิทธิภาพด้วยหน่วยประมวลผล A15 Bionic ที่จะทำให้มันมีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า 80% และมีการใช้งานช่องเชื่อมต่อ USB-C, รองรับการใช้งานเครือข่ายสัญญาณ 5G อีกด้วย

ในส่วนของหัวข้อนี้นั้น เราจะมาพูดถึงกันซอฟต์แวร์, ระบบปฏิบัติการ และบริการต่าง ๆ ที่ได้เปิดตัวไป และจะเริ่มปรับใช้งานในช่วงระยะเวลาที่ได้กล่าวไป โดยหัวใจของด้านนี้ก็คงเป็นบรรดา Apple OS ได้แก่ iOS 15 – iPadOS 15 ระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์มือถือ (iPhone, iPad) ของบริษัท ที่ได้มีการพัฒนาของระบบเพิ่มเติม เช่น Focus ที่จะเปิดให้สามารถปรับแต่การแจ้งเตือนได้ตามที่ต้องการได้, watchOS 8 ระบบปฏิบัติการเฉพาะสำหรับ Apple Watch

ทางด้านของบริการใหม่นั้น ก็คือ Apple Fitness+ บริการทางด้านการออกกำลังกายจาก Apple ที่ได้มีการเพิ่มโปรแกรมการออกกำลังกาย และ Trainer ใหม่ที่มีทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกาย และนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิค

ตัวบริการนี้จะเปิดให้ใช้งานเพิ่มเติมอีก 15 ประเทศ และมีคำบรรยาย 6 ภาษา สนนราคาบริการอยู่ที่ 9.99 ดอลลาร์/เดือน (329.17 บาท) หรือ 79.99 ดอลลาร์/ปี (2,635.66 บาท)

สรุป ข้อมูล รีวิว iPhone 13 Pro Max จอใหญ่ สเปคเรือธง

สรุป ข้อมูล รีวิว iPhone 13 Pro Max จอใหญ่ สเปคเรือธง มาพร้อมชิปประมวลผล Apple A15 Bionic (5 nm) และซีพียูแบบ Hexa-Core ทำงาน 6 แกน ขับเคลื่อนการทำงานให้ยาวนานยิ่งขึ้น ด้วยแบตเตอรี่ ที่สามารถเล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 28 ชั่วโมง เพื่อการใช้งานอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน 

เชื่อว่าต้องมีสาวก Apple หลายคนที่ว้าวจนเนื้อเต้นกับงาน Apple Event 2021 ที่ได้ไลฟ์สดไปแล้ว เมื่อคืนวันที่ 15 กันยายน เวลา 00.00 น. ตามเวลาประเทศไทย หรือช่วงเวลา 10.00 น. ที่แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ผ่านมา โดยในงานนี้ได้ขน iPhone 13 Series มาครบทั้ง 4 รุ่นเลย ไม่ว่าจะเป็น iPhone 13 mini, iPhone 13, iPhone 13 Pro และปิดท้ายด้วย iPhone 13 Pro Max รุ่นใหญ่ระดับเรือธง กับราคาที่สูงทะลุเพดานเช่นกัน

โดยในโพสต์นี้จะเป็นการ สรุป ข้อมูล รีวิว iPhone 13 Pro Max ที่มาพร้อมกับหน้าจอไซซ์ใหญ่ ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ Super Retina XDR แบบ OLED ขนาด 1284 x 2778 พิกเซล พร้อมกับอัตราการรีเฟรชเรท ที่มากถึง 120 Hz และหน่วยประมวลความจำ RAM ซึ่งเพิ่มขนาดเป็น 8 GB จากเดิมในรุ่น iPhone 12 Pro Max ที่ให้ RAM มาเพียง 6 GB เท่านั้น 

iPhone 13 Pro Max มีราคาเปิดตัว เริ่มต้นที่ 42,900 บาท พร้อมให้พรีออร์เดอร์ล่วงหน้า สำหรับประเทศไทย ในวันที่ 1 ตุลาคม และเริ่มวางจำหน่าย ในวันที่ 8 ตุลาคม ส่วนการสั่งจองล่วงหน้า สำหรับต่างประเทศ จะเริ่มต้นขึ้นในเวลา 05.00 น. วันที่ 17 กันยายน และเริ่มวางจำหน่าย ในวันที่ 24 กันยายน ตามลำดับ ซึ่งจะมีสเปคอะไรเพิ่มเติมจากเดิมบาง ตามมาอ่านในบทความนี้กันได้เลย 

iPhone 13 Pro Max จะมีขนาดใหญ่ที่สุด ในบรรดา 4 รุ่นที่ออกมา โดยมีจอแสดงผลกว้าง 6.7 นิ้ว และดีไซน์เรียบหรูดูดีมีระดับ ที่ยังคงสไตล์มาตรฐานเดียวกับ iPhone 12 Pro Max แต่จะเพิ่มความทนทานมากยิ่งขึ้น ด้วยขอบที่ทำจากวัสดุ สแตนเลสสตีล เกรดพรีเมียมแบบเดียวกับที่ใช้ในเครื่องมือศัลยกรรมทางการแพทย์ 

และตัวเครื่องที่เคลือบกระจกผิวด้าน เพื่อป้องกันรอยขีดขวน หรือการกัดกร่อนจากการใช้งานที่สมบุกสมบัน และการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นที่สุด คือโมดูลของกล้องหลัง 3 ตัว ขนาดใหญ่ ที่นูนขึ้นจากฝาหลังอย่างเห็นได้ชัด โดย iPhone 13 Pro Max จะมีสีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ เซียร์ร่าบลู, เงิน, ทอง และกราไฟต์ ซึ่งรังสรรค์ขึ้นด้วยกระบวนการเคลือบ เซรามิกโลหะ หลายชั้นที่มีความบางระดับนาโนเมตร เคลือบลงบนผิวเพื่อให้ได้สีสันที่สวยงามพร้อมกับความทนทาน 

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ป๊อกเด้งออนไลน์